โรงพยาบาลวังน้ำเย็นชี้แจงข้อเท็จจริงกรณีเด็กคลอดแล้วเสียชีวิต


    นพ.อภิรักษ์ พิศุทธ์อาภรณ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า จากที่มีข่าวเผยแพร่ทางสื่อสังคมออนไลน์อย่างเฟสบุ๊คและสื่อมวลชน กรณีที่มีผู้มารับบริการรายหนึ่งมาคลอดบุตรที่โรงพยาบาลวังน้ำเย็นเมื่อวันที่ 27 สิงหาคม  2559แล้วบุตรเสียชีวิตในเวลาต่อมา สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว ได้สั่งการให้ผู้อำนวยการโรงพยาบาลวังน้ำเย็นได้รายงานข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว จึงขอชี้แจงแยกเป็นประเด็นดังนี้ 

1. การตรวจสอบลักษณะการคลอด จากที่ผู้รับบริการคลอดบอกว่าได้คลอดเองโดยไม่มีเจ้าหน้าที่พยาบาลอยู่ในระหว่างการคลอด ได้รับการยืนยันจากพยาบาลที่อยู่เวรคลอดทั้ง 2 คน ว่าเป็นผู้ทำคลอดและอยู่ในบริเวณเตียงคนไข้ โดยได้ทำการตัดฝีเย็บให้หัวทารกผ่านช่องคลอด และดำเนินการทำคลอดตามปกติ  มิได้เป็นไปตามคำกล่าวอ้าง พร้อมได้ยืนยันว่าไม่ได้บอกผู้ป่วยว่าจะรับประทานอาหารในระหว่างปฏิบัติงาน หรือออกไปนอกสถานที่แต่อย่างใด 

2. การช่วยเหลือกู้ชีวิตของทารก หลังจากที่เด็กคลอดออกมาแล้ว พยาบาลได้สังเกตเห็นว่าเด็กมีความผิดปกติ โดยไม่มีเสียงร้องหรือหายใจ และชีพจรเด็กเต้นช้ากว่าปกติ (110 ครั้งต่อนาที) จึงได้ตามแพทย์เวรประจำวันซึ่งได้ทำการกู้ชีพเด็ก ในเวลาไม่เกิน 4 นาที หลังมีการคลอดตามมาตรฐาน พบปัญหาความผิดปกติ คือไม่สามารถใส่ท่อช่วยหายใจได้ ทั้งที่เห็นท่อหายใจอย่างชัดเจน โดยได้ใส่ท่อช่วยหายใจดังกล่าว จำนวน 5 ครั้ง แต่ไม่สามารถใส่ได้ จึงเรียกแพทย์เวรคนที่ 2 มาช่วยใส่ท่อช่วยหายใจดังกล่าว จำนวน 4 ครั้ง และไม่สามารถใส่ได้เช่นกัน 

ทั้งนี้ การใส่ท่อช่วยหายใจเป็นขั้นตอนที่สำคัญเบื้องต้นในการช่วยชีวิตผู้ป่วย เมื่อไม่สามารถกระทำดังกล่าวจึงไม่สามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยได้ แพทย์ทั้ง 2 ท่าน และผู้อำนวยการโรงพยาบาลวังน้ำเย็น จึงได้ลงความเห็นร่วมกัน ว่ามีความผิดปกติของหลอดลมอย่างชัดเจน ต่อมาได้นำศพทารกไปเอ็กซเรย์ (X-Ray) พบว่าไม่มีอากาศอยู่ในปอดของเด็ก ประกอบกับการสอบถามพยาบาลที่มีหน้าที่รับเด็กแรกคลอด บอกว่าไม่ได้ยินเสียงร้องของเด็กตั้งแต่แรกคลอด แพทย์ทั้ง 3 ท่าน จึงสรุปความคิดเห็นตรงกันว่า มีความผิดปกติของหลอดลมแต่กำเนิด จนถึงขนาดไม่สามารถมีชีวิตได้ หรือทำการกู้ชีวิตได้
3. การนำศพใส่ถุงขยะ 3 ชั้น ข้อเท็จจริงในเหตุการณ์ เจ้าหน้าที่ได้นำผ้ามาห่อศพเด็กดังกล่าว แต่เนื่องจากสอบถามญาติ แจ้งความประสงค์ว่าต้องการนำศพออกไปพร้อมมารดาที่คลอด  ซึ่งต้องใช้เวลามากกว่า 1 วัน ทางโรงพยาบาลจึงได้นำไปใส่ในถุงขยะที่ยังไม่ได้ใช้งาน เพื่อป้องกันแมลงไต่ตอมหรือมีกลิ่น พร้อมใส่กล่องกระดาษ เพื่อความเรียบร้อย ซึ่งทางโรงพยาบาลฯ ยอมรับว่าแนวทางปฏิบัติดังกล่าว อาจไม่เหมาะสม ทำให้เกิดความไม่พึงพอใจ ที่ไม่ให้เกียรติศพที่เสียชีวิต ซึ่งโรงพยาบาลวังน้ำเย็นยอมรับในข้อบกพร่องดังกล่าว  จึงขออภัยบิดา มารดาของเด็ก และญาติผู้เกี่ยวข้อง โดยยินดีจะนำไปปรับปรุงและหาแนวทางที่เหมาะสมในกรณีต่อไป

4. กล่าวอ้างว่า โรงพยาบาลไม่ยอมออกเอกสารรับรองการตาย  ข้อเท็จจริง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลฯ ซึ่งมีหน้าที่โดยตรงในการออกเอกสารรับรองการเกิด พิจารณาแล้วเห็นว่า เด็กมีความผิดปกติของหลอดลมหายใจแต่กำเนิด ไม่สามารถมีชีวิตรอดอยู่ได้หลังคลอดออกมาและไม่สามารถช่วยเหลือให้มีชีวิตได้  จึงมิได้ออกใบรับรองการเกิด ซึ่งได้แจ้งให้มารดา บิดาของเด็ก และญาติผู้เกี่ยวข้อง ได้รับทราบก่อนที่มารดาของเด็กจะออกจากโรงพยาบาลซึ่งมิได้มีการทักท้วงใด ๆ

5. ผู้ร้องเรียนให้ข้อมูลว่าโรงพยาบาลวังน้ำเย็นมีผู้เสียชีวิต 4 คน ในเวลาไม่กี่เดือน ข้อเท็จจริง ในระยะเวลา 12 เดือน โรงพยาบาลวังน้ำเย็นมีการเสียชีวิตระหว่างการคลอด เพียง 1 ราย และเสียชีวิตในขณะที่เด็กอยู่ในครรภ์ 2 ราย

ทั้งนี้จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโรงพยาบาลวังน้ำเย็น ได้ชี้แจงถึงการดำเนินงานต่างๆ แก่บิดา มารดา และญาติผู้เกี่ยวข้องให้เข้าใจเป็นระยะตลอดเวลาที่อยู่ในโรงพยาบาลฯ หลังจากนั้นบิดา มารดา ได้นำศพเด็กไปชันสูตรที่ สถาบันนิติเวชวิทยา สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  เมื่อวันที่ 2 กันยายน 2559 ซึ่งผลการชันสูตรก็สอดคล้องกับผลการวินิจฉัยของแพทย์โรงพยาบาลวังน้ำเย็น

จากเหตุการณ์ดังกล่าว สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้วและโรงพยาบาลวังน้ำเย็น ขอแสดงความเสียใจกับบิดา มารดา และญาติ ที่ได้สูญเสียเด็กคนดังกล่าวไป ซึ่งแพทย์ พยาบาล และบุคลากรทางการแพทย์ทุกคนได้พยายามที่จะดูแลผู้มารับบริการทุกคน ภายใต้มาตรฐานแห่งวิชาชีพ อย่างเต็มกำลังความสามารถ และพร้อมนำข้อเสนอแนะกลับไปปรับปรุงการดำเนินงานให้ดีขึ้นต่อไป

Update Delete

แชร์บทความนี้

Comments